เมนู

เอวเมว มีอุปไมยดังข้าวร่วงฉิบหายไปมิทันจะถึงสัสสสมัยนั้น ขอถวายพระพร นี่และมนุษย์ที่
เกิดมาไม่ทันจะแก่ชราอายุขับ อันโรคอันใดอันหนึ่งมีวาตสมุฏฐานโรคเป็นอาทิ มีโอปักกมิกโรค
เป็นปริโยสาน เสียดแทงในกายตายไป บางทีอดข้าวตาย อดน้ำตาย อสรพิษขบตาย กินยาพิษ
ตาย ไฟไหม้ตาย ตกน้ำตาย เขาฆ่าฟันตาย และตายด้วยภัยสิ่งใดหนึ่งนั้น ได้ชื่อว่าถึง
แก่มรณภาพเป็นอกาลมรณะทั้งสิ้น บพิตรจงทราบในพระบวรราชสันดาน ด้วยประการดังนี้
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีได้ทรงสวนาการดังนี้ มีพระทัยโสมนัสจึงตรัสว่า
อจฺฉริยํ ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นเจ้าวิสัชนาปัญหานี้เป็นอัศจรรย์
อพฺภูตํ ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้จำเริญปรีชา พระผู้เป็นเจ้าวิสัชนาอรรถแห่งปัญหานี้
เป็นอัพภูตพยากรณ์ช่างแก้ช่างไข้ ที่ไม่เคยได้ยินได้ฟังก็เปรียบให้ได้ยินได้ฟัง สุทสฺสิตํ การณํ
ช่างชักเอาเหตุมาอุปมาในอากาลมรณะให้สม สุทสฺสิตํ โอปมํ แล้วเอาอกาลมรณะเป็นตัวอุปไมย
เปรียบด้วยอุปมาวิสัชนาให้เห็นกระจ่าง เป็นตัวอกาลมรณะออกไปได้ ภนฺเต ข้าแต่พระ
นาคเสนผู้ปรีชาญาณ มนุษย์บางคนที่คิดเห็นอย่างเดียว เข้าใจอุปมาข้อเดียวจะพึงตกลงใจเห็น
ไปว่า มีแต่กาลมรณะเท่านั้น หามีอกาลมรณะไม่ ส่วนโยมนี้พระผู้เป็นเจ้าชักอุปมาให้เข้าใจ
โยมตกลงใจรู้แจ้งว่า อกาลมรณะก็มี จะมีแต่กาลมรณะหามิได้ ตั้งแต่พระผู้เป็นเจ้าชักอุปมา
ข้อต้นมาวิสัชนาให้ฟังแล้ว อปิจาหํ ภนฺเต ข้าแต่พระนาคเสนผู้จำเริญปรีชา พระผู้เป็นเจ้าจง
วิสัชนาดับความสงสัยข้ออื่น ๆ ของโยมเสียอีก โยมใคร่จะฟังข้อที่พระผู้เป็นเจ้าวิสัชนามานี้
โยมเห็นถูกต้องแจ่มแจ้งทุกประการแล้ว โยมจะขอรับจำไว้ในกาลบัดนี้
กาลากาลมรณปัญหา คำรบ 1 จบเพียงนี้

ปรินิพพุตานัง เจติเย ปาฏิหารปัญหา ที่ 2


สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี มีพระราชโองการตรัสถามว่า ภนฺเต นาคเสน ข้า
แต่พระนาคเสนผู้ปรีชา ตกว่าพระอรหันต์เจ้าทั้งหลาย เมื่อท่านเข้านิพพานไปนั้น มีอัศจรรย์ที่
เชิงตะกอนในเจดีย์คือเมรุนั้น มีทุกพระองค์หรือ อุทาหุ หรือว่า บางพวกมีอัศจรรย์ บางพวกไม่
มีอัศจรรย์ (อัศจรรย์คือปาฏิหาริย์)
พระนาคเสนถวายพระพรว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร บางพวกมี
ปาฏิหาริย์ บางพวกไม่มีปาฏิหาริย์